ที่เที่ยวออสเตรีย หลีกหนีอากาศร้อนเมืองไทยและสัมผัสอากาศเย็นสบายในยุโรปกับทัวร์ออสเตรีย เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านความงามตามธรรมชาติ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ใครมาเยี่ยมชมที่นี่จะบอกว่าสวยงามเกินคำบรรยาย หากคุณไม่เชื่อฉันตาม Mushroom จาก Mushroom Travel เพื่อรวบรวม 15 สถานที่เพื่อเดินทางไปออสเตรีย สัมผัสเมืองแห่งขุนเขา ตื่นตาตื่นใจไปกับเมืองที่สวยงามโรแมนติก แล้วคุณจะทำให้เพื่อนของคุณตกหลุมรักประเทศนี้โดยไม่รู้ตัว!
พระราชวังเชิร์นบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) ที่เที่ยวออสเตรีย
พระราชวังเชิร์นบรุนน์ มาเริ่มกันที่พระราชวังเชินบรุนน์ สถานที่สำคัญยอดนิยม ที่ไม่ว่าใครมา เดินทางไปออสเตรีย ต้องแวะที่นี่ก่อน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา พระราชวังสีทองเหลืองอร่าม ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา สวยงามตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โรโคโค เดิมเป็นที่ประทับฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บูร์กแห่งออสเตรีย มีห้องพัก 1,441 ห้อง แต่สามารถชมได้เพียง 45 ห้องเท่านั้น แต่ละห้องมีการจัดแสดงงานศิลปะที่หลากหลาย
นอกจากพระราชวังแล้ว บริเวณสวนยังเป็นพื้นที่ที่คนพูดถึงมากที่สุดอีกด้วย มีน้ำพุที่โดดเด่น พร้อมตกแต่งด้วยรูปปั้นแกะสลัก ที่สำคัญคือเข้าชมฟรี! แต่หากอยากชมส่วนอื่นๆ เช่น สวนองคมนตรี สวนส้ม บ้านปาล์ม บ้านทะเลทราย หรือสวนเขาวงกต อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าชมเพิ่มเติม และเนื่องจากความอลังการทั้งหมดของพระราชวังแห่งนี้ UNESCO จึงยกย่องให้วังแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี 1996 ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างอยากมาชมความงามด้วยตนเอง ที่เที่ยวออสเตรีย
พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace)
พระราชวังฮอฟบวร์ก พระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในโลกคือพระราชวังฮอฟบวร์กหากคุณได้ทัวร์ออสเตรีย แล้วคุณจะต้องไปเยี่ยมชม ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา เป็นพระราชวังที่มีประวัติยาวนานกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นที่ประทับฤดูหนาวของราชวงศ์ฮับส์บูร์กแห่งออสเตรีย ตั้งแต่ตัวแรกจนถึงตัวสุดท้าย ภายในประกอบด้วย 18 ส่วน และมีห้องพักกว่า 2,600 ห้อง ตกแต่งในสไตล์ต่างๆ ตั้งแต่บาโรกถึงโรโคโค หรือกอทิกไปจนถึงเรอเนซองส์ เรียกได้ว่าทุกห้องอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเวียนนา รวมถึงสถาปัตยกรรมที่สวยงามตระการตา
พระราชวังแห่งนี้มีสามส่วนหลักที่คุณไม่ควรพลาด ได้แก่ ที่ประทับของจักรพรรดิ พิพิธภัณฑ์ซีซี และคอลเลคชันเงิน แต่ละห้องมีผลงานศิลปะและโบราณวัตถุจัดแสดงไว้ นอกจากพระราชวังแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีสวน โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ และหอสมุดแห่งชาติ และโรงเรียนสอนขี่ม้าให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ งานสถาปัตยกรรมและศิลปะด้วย ใครคือประเภทศิลปะ? หรือผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดที่นี่จริงๆ
มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral)
มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น ไปต่อกันที่มหาวิหารเซนต์สตีเฟน โบสถ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเวียนนา ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ด้วยความสูง 136 เมตร ทำให้เป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในเวียนนา หากมองจากระยะไกลจะมองเห็นยอดแหลมของโบสถ์ที่สวยงาม ภายในโบสถ์ได้รับการตกแต่งในสไตล์โกธิกผสมผสานกันซึ่งให้ความรู้สึกที่น่าเกรงขาม ด้วยสไตล์โรมาเนสก์ที่ละเอียดอ่อนและสวยงาม ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าไปเยือนอย่างแท้จริง
ถนนคาร์นเนอร์ (Kärntner Strasse)
ถนนคาร์นเนอร์ พักจากงานศิลปะและประวัติศาสตร์แล้วไปเดินเล่น ถนนคาร์เนอร์ ย่านการค้าใจกลางเมือง แหล่งรวมร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ หรือร้านขายของที่ระลึกเรียงรายสองข้างทาง โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม ที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นเดือน Sale สินค้าลดราคามากมาย! ลดสูงสุด 50% ที่เกือบทุกร้านค้า บอกเลยว่าถูกใจนักช้อปแน่นอน
เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)
เมืองฮัลล์สตัทท์ ถ้าเพื่อนมาเที่ยวออสเตรียแล้วไม่ได้มาเมืองฮอลสตัทท์ก็เหมือนมาไม่ถึงประเทศนี้ เพราะสถานที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก เมืองเล็กๆ เงียบสงบที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางภูเขาแสนโรแมนติก เนื่องจากเป็นเมืองเล็กๆ ใช้เวลาเดินทางเพียงวันเดียวทั่วเมือง จุดเด่นของเมืองคือโบสถ์ Evangelische Pfarrkirche Hallstatt ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ และอีกจุดหนึ่งคือ World Heritage Skywalk จุดถ่ายรูปสูงเสียดฟ้าที่สามารถมองเห็นเมืองจากมุมสูงได้ เรียกได้ว่าเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้
เมืองเซนต์วูล์ฟกัง (St.Wolfgang)
เมืองเซนต์วูล์ฟกัง มาถึงเมืองเล็กๆอีกเมืองหนึ่ง เมืองแห่งเซนต์โวล์ฟกัง หรือที่เรียกเต็มๆ ว่า นักบุญโวล์ฟกัง อิม ซัลซ์คัมแมร์กุต อดีตศูนย์กลางการค้าของประเทศออสเตรีย ปัจจุบันมีชื่อเสียงในฐานะเมืองตากอากาศริมทะเลสาบในช่วงฤดูร้อน และเป็นจุดแวะเล่นสกีบนภูเขาในช่วงฤดูหนาว อยู่ติดกับทะเลสาบโวล์ฟกัง (วูล์ฟกังซี) สถานที่ยอดนิยมที่ผู้คนมาพักผ่อนที่นี่ ชื่อเมืองมาจากชื่อของนักบุญโวล์ฟกัง ซึ่งสร้างโบสถ์ขึ้นมา ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นโบสถ์หลักของเมือง
พระราชวังมิราเบล (Schloss Mirabell)
พระราชวังมิราเบล มาชมความงามอีกแห่งหนึ่งของพระราชวังมิราเบล พระราชวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1606 ที่เมืองซาลซ์บูร์ก ภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมยุโรป ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการของรัฐ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ ยังนิยมใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานอีกด้วย รวมถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ตด้วย จุดเด่นของที่แห่งนี้นอกจากความสวยงามของพระราชวังแล้วคือ สวนมิราเบลล์ สวนสาธารณะที่สวยที่สุดในเมือง นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music (1965) ซึ่งทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในทันที ที่สำคัญคือเข้าชมฟรี! สวนดอกไม้แห่งนี้เต็มไปด้วยสีสันสดใส ออกแบบและตกแต่งด้วยรูปปั้นสไตล์บาร็อค บางวันก็จะมีนักดนตรีมาบรรเลงเพลงให้บรรยากาศสนุกสนานยิ่งขึ้น
บ้านโมสาร์ท (Mozart’s Birthplace)
บ้านโมสาร์ท แวะชมเมืองซาลซ์บูร์ก คุณจะพลาดการไปเยี่ยมชม Mozart House หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mozart Geburtshaus Museum นักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลกที่เกิดในเมืองนี้ได้อย่างไร ภายในบ้านมีการจัดแสดงภาพวาด เครื่องดนตรี ประวัติชีวิต และผลงานของโมสาร์ทมากมาย โดยยังคงรักษาบรรยากาศภายในบ้านให้เหมือนกับสมัยที่ครอบครัวโมสาร์ทอาศัยอยู่ สำหรับใครที่ชื่นชอบและหลงใหลในดนตรีคลาสสิกต้องมาเยี่ยมชม ที่เที่ยวออสเตรีย